คำว่า “กินเจ” คือ ไม่คาว หรือถ้าแปลตามตัว จะหมายถึง การรับประทานอาหาร ก่อนเที่ยงวัน ซึ่งในความหมาย ของชาวพุทธ ก็คือการรักษาศีล นั่นเอง อาหารเจ จึงเกิดขึ้นเนื่องมาจาก การถืออุโบสถศีล ของพุทธศาสนิกชน ฝ่ายมหายาน ที่ไม่กินเนื้อสัตว์ ด้วยเหตุนี้ การกินอาหารเจ จึงไม่นิยมรับประทาน เนื้อสัตว์ แต่ในปัจจุบันการกินเจ ถึงแม้ว่าจะ รับประทานอาหาร ทั้ง 3 มื้อ แต่ไม่รับประทานอาหาร ที่มีส่วนประกอบของ เนื้อสัตว์อยู่ด้วยก็ยังเรียกว่า “กินเจ” ดังนั้น หากพุทธศาสนิกชนที่ ต้องการบำเพ็ญธรรม ด้วยการกินเจ ก็ต้องตั้งตนอยู่ใน ศีลธรรมอันดีงามด้วย ถึงจะเรียกว่าเป็น การกินเจที่แท้จริง
สำหรับคำว่า เจ ในความหมายทางพุทธศาศนานิกาย มหายาน หมายความว่า อุโบสภ และคำว่า กินเจ ก็คือการรับประทานอาหารก่อนเที่ยง นั่นจึงหมายความว่า เป็นการให้ ชาวพุทธถือ อุโบสถศีล หรือ การักษา ศึลแปด ของชาวพุทธ นั่นเอง และในการถือศีล ของชาวพุทธนิกายมหายาน คือการไม่รับประทานเนื้อสัตว์ จึงมีการเรียกรวมกันว่า การไม่กินเนื้อสัตว์ รวมไปกับคำว่า กินเจ นับเป็นการถือศีล ในทางพุทธศาสนานั่นเอง
การกินเจ ในปัจจุบันสามารถ แบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ดังนี้
การปฏิบัติตนในช่วงกินเจ